วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551

บัณฑิตมิลค์


วันรับประกาศบัณฑิตน้อยของหลานสาวมิลค์
ฉันออกจากบ้านที่กรุงเทพแต่เช้าตรู่ พร้อมของขวัญ 1 กล่อง

เมื่อไปถึงบ้านโป่งแม่ก็พาสาวน้อยมิลค์ไปแต่งหน้า
อี๊เพนเห็นมิลค์ตอนแต่งหน้าแล้ว ตะลึง ตึง ตึง
โอ้โหสวยน่าดู ลูกสาวยัยนิ

แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าจะเริ่มฟันหลอ สาวมิลค์ก็เลยไม่กล้ายิ้ม 555
แต่วันนั้นมีเรื่องตลกคือว่า ตอนที่เอาของขวัญให้มิลค์
มิลค์อ่านการ์ดที่อี๊เพนเขียนให้ว่า

มิลค์ที่...

บัณฑิตน้อยคือก้าวแรก อี๊เพนจะรอวันที่มิลค์รับปริญญาเอกนะหลาน...

(จำไม่ได้หมดต้องขอการ์ดแม่มาดูอีกที)

และมิลค์ก็ปิดปากยิ้มตอนแรกอี๊เพนนึกว่าอ่านไม่ออกก็เลยเว้นไว้ อี๊เพนก็สงสัยว่าทำไมไม่อ่าน
หรืออ่านไม่ออกก็ไม่น่าจะใช่
เพราะปกติมิลค์อ่านหนังสือได้เก่งแล้ว

แต่ความจริงแล้วมิลค์เขินค่ะ อี๊เพนเขียนว่า
มิลค์ที่รัก และลงท้ายว่าหลานรักด้วย
แต่มิลค์ไม่ยอมอ่านคำว่า "รัก"

พอหันไปดูเห็นมิลค์นั่งปิดปากอมยิ้มอยู่ ก็เลยถึงบางอ้อ

ตอนที่เขียน Blog นี้มิลค์อยู่ป.1
อ่านหนังสือได้ตั้งหลายเรื่องแล้ว
และกำลังอ่านเรื่องโต๊ะโตะจัง สนุกเนอะมิลค์เนอะ


เอาไว้อี๊เพนจะหาหนังสือ มานี ชูใจ (เป็นหนังสือเรียนของอี๊เพนและแม่เมื่อตอนเด็กๆ) มาเล่าให้มิลค์ฟัง
หรือมิลค์จะให้แม่เล่าไปก่อนก็ได้นะ

นินจา

ตลกดีนะมิลค์
ความเบ๊อะบ๊ะ ทำให้เราเจ็บได้นะ
ทำอะไรต้องระวัง ไม่เชื่อดูคลิปวีดีโอสิ

อยากให้มิลค์เล่าเรื่องอีกเยอะ ๆ

มิลค์อี๊เพนอ่านเรื่องธิดาวานรที่มิลค์เล่าแล้วสนุกดี
อยากให้มิลคเล่าอีก หากดูละคร หรืออ่านนิทาน
แล้วมาเล่าให้อี๊เพน กับอี๊ฐาฟังอีกนะ

อยากฟัง อยากอ่านอีกจ้า

เอ๊... แต่ทำไมอี๊ฐาเงียบไปเลยนะ

สงกรานต์...บ้านเรา













วันสงกรานต์ที่ผ่านมา อี๊เพนคิดว่าคงเป็นวันที่หลาน ๆ อี๊เพน/โกเพน รอคอย
เพราะจะได้เล่นน้ำกันให้ชุ่มปอด

วันนั้นน้องเล็กของบ้านเราสนุกน่าดู เธอปีนตุ่มตักน้ำอย่างไม่ยอมแพ้พี่ ๆ (ดูรูปประกอบ)
ถึงจะตัวเล็กเธอก็สู้ตายค่ะ ด้วยปืนฉีดน้ำแบบเป้รูปโดเรมอน พวกพี่นัทธ์ พี่วิว พี่พัทธ์ยังสู้เธอไม่ได้

สุดท้ายเปียกไปตาม ๆ กัน
สงกรานต์ที่ผ่านมามิลค์ พี่พัทธ์ แม่ อี๊เพน น้าปุ๋มได้ไปเที่ยวที่บ้านชวดที่บางเค็ม
ขากลับพี่พัทธ์ กับน้องมิลค์กลับมาเล่นน้ำที่คลองชลประทาน เส้นทางสายใน
สนุกกันใหญ่เลยเนอะมิลค์เนอะ (เนอะ) 555

คำว่าเนอะมิลค์เนอะ เป็นคำที่เราใช้หมายถึงว่า “ใช่ไหมเธอ”
แต่หากสาวมิลค์เกิดงอนขึ้นมา เธอจะตอบว่า “ไม่เนอะ”

อยากให้ถึงสงกรานต์อีกเร็ว ๆ จัง จริงมั้ยมิลค์

ธิดาวานร

วันนี้ธิดาวานร อวสานแล้ว นางเอกอิยวดีเจอพ่อกับแม่ตัวจริง แม่ (เพื่อนน้าปุ๋ม) จำความได้แล้ว
เจอเพชรสีชมพู พรานเส็งกับนายสุชาติกลับตัวเป็นคนดีแล้ว เอมฤดีกับนาตยา
(ตัวร้าย) รถคว่ำและระเบิด ตายกันหมด คำรณ (ตัวร้าย) ก็ถูกนกยักษ์ฉกตาย
เหมือนกัน

อยากล้างกระถางล้างตีนบ้าง

มิลค์อยากทำบ้าง อยากให้อี๊เพนกับแม่สอน
อะไรที่แม่กับอี๊เพนเคยทำมิลค์อยากทำเป็นมั่งจัง (ไม่รู้ว่าโม้รึเปล่า)

วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

กระถางล้างตีน


ก่อนอื่นต้องขอโทษคนอ่านก่อนจ้ะ เพราะใช้คำว่าตีนไม่สุภาพ แต่เป็นคำไทยโบราณนะจ๊ะ

แต่มันเป็นคำศัพท์ที่เรียกอย่างนี้จริง ๆ จ้ะ


มิลค์..ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านเพชรของเราไม่ค่อยมีใครใส่รองเท้า ส่วนใหญ่เดินเท้าเปล่า ๆ กัน

ขนาดแม่ อี๊เพน อี๊ฐาไม่โรงเรียนยังไม่ใส่รองเท้ากันเลย เพราะเพื่อน ๆ ในโรงเรียนไม่มีใครใส่กัน

เวลาที่จะไปบ้านใคร หรือขึ้นไปบ้านใครก็ต้องล้างเท้าก่อน


วิธีการ

ก้าวลงไปยืนอยู่ตรงก้อนหินตรงกลาง (ดูรูป) แล้วใช้เท้าวักน้ำขึ้นมา

และถู ๆ เพื่อให้ขี้ดินหลุดจากเท้าเรา เมื่อสะอาดดีแล้วก้าวออกมา

เช็ดผ้าขี้ริ้วอีกครั้งก่อนขึ้นบ้านคนอื่นเขา


และเมื่อตอนเด็กที่โรงเรียนคนที่ถูกทำโทษต้องถ่าย"กระถางล้างตีน"

คือ การทำความสะอาดและเติมน้ำใหม่เข้าไป (น้ำในกระถางล้างตีนนั้น สกปรกและเหม็นมากค่ะ)


อยู่ที่บ้านเรา แม่กับอี๊เพนจะต้องช่วยกันล้างกระถางล้างตีนเฉลี่ยอาทิตย์ละครั้ง
โดย ต้องยกก้อนหินตรงกลางออกมาก่อนและค่อย
ยกกระถางขึ้นแล้วอี๊เพนคอยดันด้านหลังของกระถางไว้เพื่อเทน้ำเก่าออกไป

ส่วนแม่จะเอาน้ำที่ซักผ้าแล้ว (เป็นการประหยัดน้ำ) ใส่กระป๋องสาดเข้าไปที่กระถางล้างตีน

เมื่อสะอาดแล้วค่อยวางกระถางลง แล้วยกก้อนหินที่เป็นแท่นยืนใส่ลงตรงกลางกระถาง

จากนั้นค่อยหิ้วน้ำเทใส่ลงไปให้เต็ม หรือท่วมหินตรงกลาง


ถึงแม้ว่าเราจะต้องเป็นคนล้างกระถางล้างตีน แต่ข้อดีคือ เราได้ล้างเท้าของเราคนแรกที่มีการเปลี่ยนน้ำจ้ะ

ไม่เชื่อลองถามแม่ดูว่าจริงไหม

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เริ่มต้นจากแกงส้ม เหมือนกัน อิ..อิ


มิลค์ที่รัก...
อี๊เพนอ่านเรื่องของมิลค์ด้วยความตื่นเต้น
เพราะอี๊เพนตอนเด็กสิ่งที่ถามแม่ (ยายของมิลค์)
เรื่องกับข้าว คือ "น้ำพริกแกงส้มทำไงแม่"

ยายบอกอี๊เพนว่า
เอาพริกแห้ง 10-15 เม็ดเด็ดเป็นท่อน ๆ ก่อนแล้วแช่น้ำ
เมื่อพริกนิ่มแล้วบีบน้ำออกใส่ครก
(ตอนนี้อาจจะแสบมือนะ)
พร้อมกับเกลือเม็ด ๆ เล็กน้อย แล้ว
ตำ ตำ ตำ ตำ จนแหลก
(ตอนนั้นไม่มีเครื่องปั่นเหมือนมิลค์นะ)

ใส่หัวหอมแดง 7-8 หัว
กะปิประมาณก้อนเท่าหัวแม่มือ (นิ้วโป้งจ้ะ)
และ ตำ ตำ ตำ จนเข้ากันดี จนได้พริกแกง
จากนั้นละลายน้ำ ตั้งไฟ และทำเหมือนมิลค์เปี๊ยบเลย

ทำไมมิลค์ชอบมาเลียนแบบอี๊เพนเนี่ย ฮึ!!!

แต่อี๊ว่ายายทำแกงส้มใบมะขามอ่อนกับปูแสม
(อ่านว่า สะ-แหม)
อร่อยที่สุดในโลกเลย ไม่เชื่อถามแม่มิลค์ดูดิ
วันนี้เลยเอารูปเก็บใบมะขามที่บ้านชวดมาฝากจ้า

แกงส้มดอกแค

วันนี้มิลค์ช่วยแม่ทำแกงส้มดอกแค ใส่พริก เกลือ กะปิ หัวหอม แล็วก็ปั่นให้ละเอียด
แล้วเทพริกใส่หม้อ ต้องเอาน้ำใส่เครื่องปั่นแล้วเขย่าให้พริกมันออกให้หมด (ลูกสอนแม่) แล้วเอาไปต้ม
แล้วก็คน ๆ ๆ แล้วก็เอามะขามมาใส่น้ำแล้วก็บีบ ๆ ๆ ใส่หม้อ
ล้างดอกแค แล้วก็เอาใส่หม้อ ใส่กุ้ง 15 ตัว เสร็จ ที่อยากรู้จะได้ทำเป็นตอนโตงัย

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2551

"ไอ้มิลค์"


บทสนทนาในวันหนึ่งหลังกีฬาสีของเด็ก ป.1


อี๊เพน : ทำไมเสียงมิลค์แหบล่ะ (อี๊เพนเดาเอาว่าคงเป็นเพราะเพิ่งผ่านกีฬาสีมาหมาด ๆ คุณเธอเชียร์อย่างไม่ออมแรง ออมเสียงใดใด มิลค์ทำอะไรทุ่มสุด ๆ ร้องเบา ๆ ไม่ได้ค่ะ)
มิลค์ : แหบแล้วมันเกี่ยวอะไรกับ
อี๊เพนล่ะ อ้าว แป่ว!!!
(อี๊เพนไม่ละความพยามคุยต่อ)
อี๊เพน : มิลค์พี่วิวไปไหนล่ะ
มิลค์ : เล่นกับหมาอยู่
อี๊เพน : อ๋อไอ้ด๊อกน่ะเหร่อ
(พูดไปก็นึกได้ว่าอี๊เพนจำชื่อมันผิด นั่นมันหมาบ้านลุงรินนี่นา)
มิลค์ : ไอ้ด๊อกมันจะมาอยู่บ้านมิลค์ได้ไง เอ้อ อี๊เพนหนิ หมามิลค์ชื่อไอ้ทอยย..ย
(แต่เสียงจะเหมือนไอ้ถอยยซะมากกว่า เอ่อ..คือว่าเธอเหน่อค่ะ)

อี๊เพน : อ๋ออ แล้ว “ไอ้มิลค์” (เน้นเสียง) ล่ะ อยู่ไหน
มิลค์ : ฮึ!!! (สาวมิลค์เงียบไปนิด)
อี๊เพน : อ้าวไมล่ะ (แอบหัวเราะกิ๊กกั๊ก)
มิ้ลค์ : ก็ว่ามิ้ลค์เป็นหมาน่ะดิ (รู้ทันอีกแน่ะ)

ปิดท้ายการสนทนาวันนั้น
มิลค์ : “อี๊เพนมิลค์จำเบอร์อี๊เพนได้แล้ว" พร้อมกับส่งเสียงเหน่อ ๆ ออกมาเป็นเบอร์โทรศัพท์
อี๊เพน : โหจำได้ไงอะ
มิลค์ : ก็มิลค์แจ๋วอะดิ
(แหม..เจ๋งจริงแม่หลานสาว)

ม๊อบ

มิลค์ดูรูปแล้วให้แม่ช่วยอ่านใน web พร้อมกับพูดว่าอุตส่าห์บอกอี๊เพนไม่ไห้ไปม๊อบแล้ว อี๊ฐามาเป็นซะอีก + น้าวัฒน์ อีกต่างหาก
(ไปวันเดียวถ่ายรูปซะยังกับไปเป็นเดือน) พี่วิว อดไม่ไหวบ้านนี้บ้ากล้องกันทั้งบ้าน น น น (พักจากการซ้อมเป่าขลุ่ย)
วันนี้พี่วิวไปแอบดูคะแนนมา รวมแล้วได้ 832 คะแนน น่าจะ 83.2 % ไม่รู่ว่าโม้หรือเปล่า
มิลค์ยังไม่รู้เลย

เข้ามาคนแรกเลย

อ้าว วันนี้อี๊เข้ามาคนแรกเหรอเนี่ย

วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ยิ้มด้วย 2 คน

อี๊ฐา + น้าวัฒน์ อ่านแล้ว ก็ยิ้ม เหมือนกัน นาฬิกาคงได้พรุ่งนี้นะ

บ้านหลายเรื่อง...อี๊ฐามาม๊อบ








ตอนนี้บันทึกเรื่อง"รัก รัก"ของอี๊เพนกำลังได้รับความนิยมอย่างหนัก
ฝ่ายยัยมิลค์เจ้าของเรื่องก็บังคับให้อี๊เพนเขียนทุกวัน
ฝ่ายอี๊ฐาอ่านแล้วไม่รอช้า รีบถามทันทีว่า
"หากฐาจะเขียนมั่งต้องทำไง"

บ้านเราก็เลยมะรุมมะตุ้มเขียนอยู่บล็อกเดียวกัน
ก็สนุกดีอีกแบบ
มิลค์อี๊เพนว่า ต้อนรับสมาชิกใหม่กันหน่อยดีกว่า...
มีอยู่วันหนึ่งจู่ จู่มีโทรศัพท์จากคนชลบุรีว่า "ฐาจะมากู้ชาติ"อี๊ก็เลยพาไปปรากฏว่าไปถึงไม่ค่อยตั้งใจฟังเขาพูดกันเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ถ่ายรูปโดยเฉพาะน้าวัตน์ โอ้โห..กว่าจะผูกผ้า คว้ามือตบมาถ่ายรูป มิลค์ดูรูปเอาเองละกันนะ
มีทั้งรูปคู่ รูปเดี่ยว แอ่น แอน แอ๊น...เชิญชมก๊า


อี๊เพน...แสนดี

มิลค์อ่านเรื่องที่อี๊เพนเขียนแล้วสนุกมากๆๆ ยิ้มตลอดเลย อ่านกันทั้งบ้านเลย
วันนี้ลองพิมพ์หาเท่านี้ก่อนแล้วจะเข้าไปพิมพ์ใหม่นะจ๊ะ

ปล.ฟันหน้าขึ้น 2 ซี่ แล้ว อาทิตย์หน้าเจอกัน

จากน้องมิลค์

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

พายุ













แม่นั่งดูหัวพี่วิวด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นตุ่มใส ใส ขึ้นอยู่บนหัวและในจุดนั้นผมพี่วิร่วงหายไป
วิว : แม่ถ่ายรูปให้วิวดูหน่อย มันเป็นไงแม่
มิ้ลค์ : แม่มิ้ลค์ถ่ายให้เอง (จัดแจงเอากล้องมาตั้งท่าถ่ายเรียบร้อย)
มิ้ลค์ : แม่ไม่เห็นมีเลย มิ้ลค์เห็นแต่พายุ
แม่ : พายุ อะไรมิ้ลค์
มิ้ลค์ : ก็ไอ้ที่มันวน วนอยู่บนหัวพี่วิวน่ะ
แม่ : นั่นเขาเรียกขวัญจ้ะ
มิ้ลค์ : เหร่อแม่

วันครู



เด็กหญิงมิ้วรบเร้าให้แม่ไปเก็บดอกไม้ในหมู่บ้าน ไว้สำหรับไหว้ครูในวันรุ่งขึ้น
แม่ : พรุ่งนี้ค่อยเก็บก็ได้ลูกเดี๋ยวมันจะเหี่ยวซะหมด
มิลค์ : ก็ได้ (แอบทำหน้างอเล็กน้อย)
รุ่งเช้ามิ้วและแม่ไปถึงสวน ดอกไม้แทบไม่เหลือแล้ว เพราะโดนคนอื่นตัดหน้าไปแล้ว
มิลค์ : เห็นมั้ยแม่... แม่ก็ไม่ได้ถูกไปทั้งหมด
แม่ !!!
ตกตอนเย็น
แม่ : มิลค์เป็นไงบ้างไหว้ครู
มิลค์ : ก็ดี แต่ครูเขาทิ้งดอกไม้ของเด็กหมดเลย เหลือไว้แต่อันที่สวย ๆ จริง ๆ ครูเขาน่าจะทิ้งตอนเด็กกลับบ้านแล้วนะแม่
แม่ : !!!

เรื่องมิลค์ มิลค์





ยัยมิลค์


หลานสาวตัวแสบ น้องสุดท้องของบ้านฉัน
เธอเป็นเด็กช่างคิด ช่างเจรจาเป็นที่สุด

มิลค์อยู่ ป.1 เธอเป็นสาวน้อยเพชรบุรีแต่มีอันต้องไปเติบโตที่บ้านโป่ง
เพราะแม่และพ่อต้องไปทำงานกันอยู่ที่นั่น
เสียงของเธอเลยกลายเป็นสาวเหน่อบ้านโป่ง แต่ก็น่ารักไปอีกแบบ

"อี๊เพนแป๊ปนึ่งนะ" เธอมักบอกให้อี๊เธอรอเสมอเวลาโทรศัพท์ไปหาที่บ้านโป่ง

มิลค์มีพี่ชาย 1 คนชื่อพี่วิว ตอนนี้อยู่ม.1 แล้วแต่ยังร้องไห้เวลาถูกน้องแกล้งอยู่เลยมิลค์รักครอบครัวของเธอมาก หากชวนไปเที่ยวที่ไหนเธอมักตอบอี๊ว่า
"หากไปต้องไปทั้งครอบครัว" เอากับเธอสิ

"เรา"มีบ้านอยู่ที่เพชรบุรี และเรามักกลับไปเจอกันเดือนละครั้ง หรือ 2 ครั้ง
สมาชิกบ้านของเรามี เหลาม่า กู๋ษิต พี่นัทธ์ พี่พัทธ์ อานก อี๊ฐา น้าวัตน์ อี๊เพน ยาย แม่นิ พ่อวัน พี่วิว และน้องมิลค์ เวลาเรากลับบ้านพวกเรามักไปนั่งเล่นกันที่หน้าบ้านโดยมีน้าปุ๋มนำทีม ตามด้วยมิลค์ พี่พัทธ์ พี่วิว แม่ และอี๊เพน

เรื่องเล่าของมิลค์จะมีเรื่องขำ ขำ เสมอไว้จะเก็บมาเล่าต่อ

"ฟรีสไตล์"







วันหนึ่งพ่อกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า
พ่อทำโน่นให้หน่อย ทำนี่ให้หน่อย

ยัยมิลค์ตัวแสบออกคำสั่งกับพ่อไม่ได้หยุดหย่อน และก็นัวเนียพ่อไม่ห่าง
ด้วยความเหนื่อยพ่อจึงบอกลูกสาวสุดที่รักว่า “ขอพ่อฟรีสไตล์บ้างเหอะ”
ยัยตัวแสบบอกพ่อว่า
“งั้นพ่อก็ไปว่ายน้ำสิ”!!!