วันเสาร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ราคาชีวิตของคอปเปอร์


แม่นิเล่าว่าเอารองเท้าตีคอปเปอร์ เนื่องจากมันกัดรองเท้าคู่โปรด
และก็เล่าต่อว่าลูกสาวได้ไปคุยกับพ่อว่า


"หมามันมีชีวิตเนอะ ซื้อมาตั้งหกพัน รองเท้าแม่แค่พันเดียว
แถมรองเท้ามันก็ไม่มีชีวิตด้วย เดี๋ยวมิลค์ช่วยออก 500 ก็ได้"

(มิลค์คงหมายถึงว่าหากซื้อรองเท้าใหม่ จะช่วยออกเงิน 500)

แม้จะเป็นการเปรียบเทียบชีวิตออกมาเป็นมูลค่า 6000 บาท เทียบกับรองเท้า 1000 บาท
แต่ฉันในฐานะอี๊ก็อดภูมิใจไม่ได้ว่าเบื้องหลังของการพูดของมิลค์คงเป็นเพราะความรัก ความสงสารที่มีต่อ"คอปเปอร์" และมิลค์ก็ยังรักษาน้ำใจแม่ด้วยการไปพูดกับพ่อแทนที่จะว่าแม่ตรง ๆ อีกด้วย


แต่มิลค์ก็ต้องไม่ลืมนะว่า คอปเปอร์ก็ต้องได้รับการสั่งสอนไม่ต่างอะไรกับเด็ก ๆ
เพราะการที่คอปเปอร์มันกัดรองเท้าทำให้มันนิสัยเสีย กลายเป็นหมาชอบกัดรองเท้า
ทีนี้มันก็จะกัดรองเท้าทุกคน อี๊เพนเคยไปบ้านเพื่อนใส่รองเท้าคู่ละ 3000 ไปปรากฎว่ามันกัดรองเท้าอี๊เพน
อี๊เพนรู้สึกเสียดายรองเท้ามาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
แม่เขาทำถูกแล้วต้องสั่งสอนให้มันหลาบจำ


เจอกันอาทิตย์หน้าจ้ะ


อี๊เพน


(นิช่วยเอารูปคอปเปอร์กับมิลค์ลงให้ด้วยนะ)


หุ่นเฟิร์มของพัทธ์




ฮัลโหล...พัทธ์เป็นไงมั่ง (โกเพนเอ่ยประโยคแรกเมื่อได้คุยโทรศัพท์กับพัทธ์)
พัทธ์กำลังลดน้ำหนักอยู่ โห..นี่โกเพนหูฝาดไปหรือเปล่า

พัทธ์เล่าถึงเมนูลดน้ำหนักตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง
"ตอนเช้าพัทธ์กินต้มวุ้นเส้น ตอนเย็นพัทธ์กินสลัด แม่ซื้อมาให้กิน"

เออฟังดูเข้าท่าแฮะ โกเพนถามว่ากินมากี่วันแล้ว
"วันนี้วันที่ 2 เอ้ย!! วันที่ 3" เอาน่ะก็ดีกว่าไม่ได้เริ่ม โกเพนให้กำลังใจพัทธ์นะ
พัทธ์ก็เล่าต่อว่าพัทธ์ดูแลเหลาม่า จูงเหลาม่าลุกขึ้นและบอกว่าเหลาม่าผมยาวมาก
และเล่าเรื่องไปวัดพระแก้ว ว่ามีฝรั่งมาถ่ายรูปให้ เออใช้ได้ไม่เสียแรงที่เอากล้องไปด้วย
โกเพนก็เลยบอกว่า อาทิตย์หน้าจะกลับบ้านเพชร พัทธ์ถามย้ำว่าอาทิตย์หน้าใช่ไม๊
เออ..ใช่ พัทธ์ก็บอกว่า

"ดี..ได้มาดูหุ่นเฟิร์ม ๆ ของพัทธ์"

ให้มันจริงเฮอะ

เอาวะพัทธ์นึกเข้าไว้ว่า "สู้โว้ย"

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เรื่องเล่าในวันวุ่น ๆ

เรื่องของเรื่อง เกิดเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (19 ก.พ. 2552) โทรหาหลานสาวเพื่อบอก BD เจ๊แต่คุยไปมาเธอบอกว่า "อี๊ซื้อของให้มิลค์อย่างหนึ่งดิ มิลค์จะให้แม่วันเกิด" โหอี๊อิจฉาแม่นิจังที่มีลูกสาวน่ารัก อี๊ก็คิดอยู่นานว่าจะไปซื้ออะไรให้ดี ไป ๆ มา ๆ ก็เลยคิดว่ารอมิลค์มากรุงเทพก่อนแล้วก็จะทำเนียน ๆ ไปเลือกด้วยกันดีกว่า

แต่พ่อมิลค์ก็ดันมาเข้าโรงพยาบาล อดเลย!!! พูดถึงพ่อมิลค์ป่วยอี๊เพนก็ได้ไปเยี่ยมเพราะจะเอากล้องไปให้พี่พัทธ์ (อบต.บ้านเราจะพาเด็กนักเรียนมาเที่ยวกรุงเทพงานนี้พัทธ์สุดหล่อก็เลยตระเตรียมการว่าจะต้องถ่ายรูปที่วัดพระแก้ว) มาถึงโรงพยาบาลพี่นัทธ์ พี่วิว เอากันใหญ่ "เดี๋ยวก็กล้องหาย ไม่ต้องให้ไปหรอก ถ้ามันหายจะทำไง ฯลฯ" แต่อี๊เพนเห็นว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีหากพัทธ์จะได้เรียนรู้ที่จะเก็บภาพความประทับใจในวันที่มาเที่ยววัดพระแก้ว อี๊เพนก็เลยตัดสินใจเอาไปให้ น้าปุ๋มก็เลยแวบไปซื้อกระเป๋าสะพายให้พัทธ์แบบเล็ก ๆ สำหรับใส่กล้องติดตัวไว้ตลอด อืม...พัทธ์ดูภูมิใจน่าดู ไม่วายที่ทุกคนจะบอกพัทธ์ว่า "ห้ามหายนะ ห้ามถ่ายเพื่อน ห้ามวางลืม ห้ามถอดกระเป๋าออกจากตัว" "รู้แล้วน่า" พัทธ์บอก


ขากลับแม่ต้องขับรถกลับเองน้าปุ๋มก็เลยขับมาส่งเด็ก ๆ ที่บ้านดีกว่า"ปลอดภัยไว้ก่อน" ส่วนอี๊นั่งมากับแม่ก็เลยมากินหมูกะทะกันที่ริมน้ำบรรยากาศดี และก็อร่อยใช้ได้นะ คราวหลังหากไปกินอี๊เพนจะซื้อเบคอนจากกทม.ไปให้ลองชิมกันแล้วจะติดใจนะ

ช่วงนี้กว่าจะกลับถึงบ้านเกือบ 3 ทุ่มทุกวัน รถติดเพราะมีชุมนุมเส้นทางที่อี๊เพนต้องผ่าน ก็เลยห่างหายการเขียนไปกลับมาเขียนเลยเล่าซะยาว เกือบลืมอีกเรื่องที่ต้องเขียนไว้หากพ่อมิลค์มาอ่านลูกชายอาจตกกระป๋อง (แซวเล่นนะพี่วิว) หลานสาวเธอบอกว่า "เดี๋ยวมิลค์จะซื้อน้ำขวดให้พ่อไปกินที่โรงงาน พ่อจะได้ไม่เป็นนิ่ว" อี๊ก็ลืมถามว่ารู้ได้ไงว่ากินน้ำขวดแล้วจะไม่เป็นมัวแต่หัวเราะอยู่ สันนิฐานว่าเธอคงได้ฟังจากหมอเป็นแน่ว่าสาเหตุโรคต้องมาจากกินน้ำไม่สะอาด (อันนี้อี๊เดาเอานะ)

กลับไปถึงบ้านมิลค์ มิลค์เรียก "พี่รวยเงิน" (คงเรียกเฉยๆ) ตามสไตล์มิลค์ แต่แม่เล่าให้อี๊เพนฟังเรื่องที่
มิลค์พูดกับแม่ว่า "มิลค์บอกพี่รวยเงินว่าให้ช่วยให้พ่อหายไวๆ"

เอากับเธอสิ

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เมื่อบางสามแพรกโดนโกงเงิน

เมื่อต้นเดือนได้ข่าวว่าเขาโดนโกงกับไปเยอะ ก็น่าสงสารที่ถูกหลอกเงินไป
วันก่อนครอบครัวลุงริน กู๋ษิต เขาไปเมาส์กันที่ รพ.สนามจันทร์
จากเหตุการณ์นี้คนในครอบครัวเราที่เดือดร้อนด้วย คือ น้องพัทธ์
ของเรา เรียนอยู่ห้องเดียวกับลูกคนโกงเงิน ถูกขอยืมไป
20 บาท เมื่อแม่หนี ลูกจะอยู่กับใคร เลยถูกหางเลขกับเขาไปด้วย
ถ้าเทียบอัตราส่วนว่าคนมีรายได้กับไม่มีรายได้ ถือว่าเยอะนะ

วันเกิด

วันเกิดปีที่ 38 ลูกสาวอุตส่าห์โทรไปเตี๊ยมกับอี๊เพนว่าให้ซื้อของให้หน่อยจะเอาไปให้แม่วันเกิด
อี๊เพนก็วางแผนไปบ้านอี๊เพนที่กรุงเทพซิ ก็ทำท่าจะไปอยู่แต่พ่อไป รพ.ซะก่อนเลยอดเลย
แต่ก็ไม่วายอี๊เพนเอามาให้ที่ รพ. เลยเป่าเค็กในห้องคนป่วยซะเลย เท่านั้นยังไม่พอแอบ
ไปสั่งเค็กครูประจำชั้นให้ แล้วก็มาถามแม่ว่า "แม่สั่งเค็กครูเบญไหม"ครูถาม แม่บอกว่าก็
สั่งมาซิ 2 ปอนด์ (คุยนักหนาว่าอร่อย) สุดท้ายได้กินก็วันจันทร์ที่ 23 กุมภา เจ้ากี้เจ้าการจริง ๆ


วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วาเลนไทน์...มั้ง


ขอบคุณที่รักกัน
ขอบคุณทุกครั้งที่คอยกอดฉันในวันที่ปัญหา
ถาโถมเข้ามาใส่จะตอบแทนความรัก ที่ฉันได้จากเธออย่างไรก็รู้ดีว่า
ไม่พอ แต่ขอทำให้ดีที่สุด

ความรักทำให้อิ่ม ..... HAPPY VALENTINE
นะจ๊ะ

อี๊เพนสุดอ้วน

อี๊เพนไปทำงานที่จังหวัดสุราษฎ์ธานี
แล้วเขามีกิจกรรมเต้นออกกำลังกายด้วยไม้พลอง
อี๊เพนเอากับเขาด้วย เพราะเขามาชวนเต้น
ก็เลยฝากรูปให้หลาน ๆ ได้ดูกัน
อ้วนจิง ๆ

วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

อี้เพนชอบรูปนี้สุด ๆ




รูปนี้ต้องขยายคับพี่น้อง

งานเข้า




"อี๊เพนเมื่อวานงานเข้า"
"งานเข้าทั้งบ้านเลย"

อี๊เพนอดขำไม่ได้เมื่อฟัง 2 ประโยคติดกันจากแม่หนูมิลค์ที่เล่าระหว่างนั่งรถไปเยี่ยมเหลาม่าที่บ้านเพชร (9 กุมภา 2552)
"งานเข้า" เป็นศัพท์ฮิตติดปากในช่วงนี้ (เท่าที่จำได้คือปีที่แล้ว 2551 ต่อเนื่องกันมาถึงตอนนี้ ต้นตอน่าจะมาจากละครเรื่องบางรักซอย 9)ไม่น่าเชื่อว่ามิลค์จะเจอกับภาวะงานเข้า เข้าจนได้

แต่งานเข้าของมิลค์คราวนี้คือ โดนแม่บ่น และโดนกันทั้งบ้าน อี๊เพนแอบถามว่าพ่อก็งานเข้าด้วยเหรอะ มิลค์รีบตอบ "พ่องานเข้าไม่มาก" 555 สงสัยพี่วิวจะโดนหนัก เพราะเล่นเกมส์หนักมือขึ้นทุกวัน ส่วนมิลค์ก็เที่ยวเล่นนอกบ้านชนิดที่เรียกว่า"สุดหวี่ยง" ไม่เรียกไม่กลับบ้าน

ระหว่างทางมิลค์คุยโน่นคุยนี่ไม่หยุดหย่อน อี๊เพนก็ความจำสั้น (นี่แหละถึงต้องมีสมุดไว้จดเวลามิลค์พูดอะไร_ที่หลังอย่าห้าม)แต่จำได้ว่าพอถึงบ้านยายมิลค์พูดออกมาทันที "โห่..ดูสีบ้านยายสิ" อี๊เพนก็อดขำไม่ได้...ก็ยายเล่นทาสีเขียวไม่ธรรมดาจริงๆ (ดูรูป)แต่คุณเธอของอี๊เพนนี่สิรสนิยมดีซ๋าด้วย พอคุณมิลค์เธอพูดจบก็ห้ามไม่ให้อี๊เพนเล่าให้ยายฟังอีกตะหาก 555

จบจากบ้านยายไปบ้านเพชรมิลค์หายหัวตั้งแต่ไปถึง จนถึงเวลากลับเธอถึงจะมาขึ้นรถ แวะเที่ยวงานเขาย้อยแป๊ปนึงซื้อข้าวหลาม และไก่ย่างมาแวะกินกันที่ปั๊มบางจากที่แวะประจำก่อนกลับ จากนั้นเธอก็หลับจนถึงบ้านโป่งบ้านเธอ

แต่พอถึงบ้านปุ๊บ พี่วิววิ่งมาปั๊บพร้อมกับถุงขนมคุ๊กกี้ ที่มีเศษคุ๊กกี้ติดก้นถุง พอแม่สาวมิลค์เห็นเท่านั้นหละ
"ฮือ ๆ ๆ พี่วิวกินของมิลค์หมดทำไม" อี๊เพนนึกในใจ "งานเข้า" ละครับ..พี่น้อง