วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

ความหวังสุดท้าย

สืบเนื่องจากเรื่องพี่วิวอยากดูหนัง

อี๊เพนบอกพี่วิวว่า พี่วิวเป็นความหวังนะเพราะพี่นัทธ์เขาเรียนไม่ค่อยเก่ง
พี่วิว : ทำไมอะ แล้วพัทธ์ล่ะ
อี๊เพน : ก็วิวเป็นหลานคนที่สองรองมาจากพี่นัทธ์น่ะสิ

มิลค์ซึ่งกำลังนั่งดูหนังเรื่องปลาบู่ทองอยู่ พูดแซงมาว่า
"งั้นมิลค์ก็ความหวังสุดท้ายน่ะสิ"

เออ!!! จริงของมิลค์นะเนี่ย 555 ไอ้ตัวเล็ก

หลานชายอยากดูหนังกับเพื่อน

อี๊เพนไปเที่ยวค้างบ้านพี่วิว และมิลค์ตั้งแต่วันพฤหัสเพราเป็นวันสารทจีน
เช้าวันเสาร์เตรียมจะกลับ กทม. ก็ได้รู้ว่าหลานชายจะไปดูหนังกับเพื่อน

อาจจะฟังดูธรรมดาว่าเด็กวันรุ่นตอนต้นจะไปเที่ยวดูหนังกับเพื่อนบ้าง แต่อี๊เพนก็ต้องตกใจเมื่อหลานบอกว่าเพื่อนชวนไปดูหนังเรื่อง "แฟนเก่า" เอาเข้าไปมันนี่มันไม่ใช่หนังสำหรับเด็ก แล้วทำไมเพื่อนวิวอยากดู ที่ยิ่งแย่ทำไมพ่อแม่เขาไม่ถามเลยเรอะว่าลูกจะดูหนังเรื่องอะไร นี่แหละหนาพ่อแม่ ฝากให้โรงหนัง กับห้างเป็นคนเลี้ยงลูกให้ เป็นเพราะพ่อกับแม่ไม่มีเวลาเอาใจใส่

แต่เด็กก็มีความคิดของเด็ก วิวอาจนึกว่ามันเรื่องเล็กแค่ไปดูหนัง เพื่อนเขาไปได้ ทำไมวิวไปไม่ได้
แต่เพื่อนที่ไปเป็นเพราะพ่อแม่เขาไม่ว่าง ไม่อยู่บ้าน เป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบไม่ได้คิด ไม่วางแผนอนาคตของลูก อี๊เพนอึ้งเลยที่วิวย้อนแม่ว่า "แม่จะให้วิวเป็นเด็กเรียนเลยเหรอะ" หน้าที่ของเด็กตอนนี้คือเรียนนะลูก แล้วไม่เป็นเด็กเรียนวิวจะเป็นเด็กเที่ยวหรือไงจ๊ะ (วิวอาจเถียงขึ้นมาว่า วิวไม่ขนาดนั้นหรอก)

วิวแค่มีหน้าที่เรียนไม่ต้องหาเงินเพื่อเอามาเรียนเหมือนเด็กยากจนอีกเยอะก็ดีแล้ว ถ้าหาเงินได้เองอยากทำอะไรจะไม่ว่าเลยค่ะ พ่อคุณพ่อทูนหัว วิวลองทบทวนดูในสิ่งที่แม่และพ่อพูดดูนะว่าจริงไหม

พ่อ แม่ และอี๊เพนพยายามพูดอยู่นาน ขนาดดูแล้วว่าวิวน่าจะเข้าใจดีขึ้น ไม่วายวิวก็ร้องไห้อยากไปอีก
โรงหนัง และพวกห้างนี้มันเก่งนะทำให้เด็ก ๆ อยากไปเดินเที่ยว เด็กอยากไปห้างมากกว่าอยากไปพิพิธภัณฑ์
เด็กไทยถึงสู้เด็กชาติอื่นไม่ได้ เพราะถูกมอมเมาด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง

อี๊เพนไม่ได้หวังว่าวิวจะต้องเก่งสุด ๆ ความหวังของอี๊เพนคือ อยากให้วิวเป็นคนดี รู้ว่าอะไรถูกผิด คิดได้เอง ซึ่งต้องหัดอีกเยอะ เวลาเที่ยวมีอีกเยอะจ้ะ แต่เวลาตั้งใจเรียนให้ดีมีน้อย เพราะพื้นฐานต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้แหละ

อี๊ก็หวังว่าวิวจะเข้าใจเพราะวิวเป็นเด็กฉลาด และรู้จักคิดได้เองนะครับ

อี๊เพน