วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

พวกเรารักเหลาม่า


มิลค์จ๊ะ


วันนี้อี๊เพนจะเล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ นั้นที่บ้านเพชรเรานั้นมีอาชีพขายของขายขนมเยอะแยะเลย

ขายข้าวสาร น้ำมันและอื่นๆ เรียกว่าร้านขายของชำ อากงของอี๊เพนก็ทำเตาถ่านด้วย วันหลังจะเขียนเล่าอีกเรื่องเตาถ่าน ส่วนอาม่า (หรือเหลาม่าของมิลค์) ขายปูแสมดองซึ่งต้องนั่งรถไฟไปขายที่นครปฐม


ตอนอี๊เพนเป็นเด็ก เหลาม่าใจดีมากซื้อขนมมาให้ประจำเลย และก็ใจดีไม่เคยตี แต่แม่อี๊เพน (ยายมิลค์อะ) ตีอี๊เพนแทบทุกวันเลยแต่อี๊เพนก็ดื้อด้วยหละ เหลาม่าจะขับเรือไปจอดที่สถานีรถไฟเขาย้อยตั้งแต่เช้ามืดและก็จะขึ้นรถไฟไปขายปูต่อ เหลาม่าเหนื่อยมากเลยแต่เหลาม่าก็เหนื่อยเพื่อหลาน ๆ


กู๋ษิต แม่ อี๊เพน และอี๊ฐา นอนกับเหลาม่าทุกคนตอนเด็ก ๆ ที่บ้านเพชรเราไม่มีไฟฟ้าใช้อี๊เพนจำได้ว่าเวลานอนเหลาม่าจะคอยพัดให้ทั้งคืนเลยกลัวหลาน ๆ จะร้อน พัดทั้งมุ้งเลย

และที่บ้านเราก็ยุงชุมมาก ยุงมันชอบมากัดที่เท้าของอี๊เพน เหลาม่าก็จะเกาให้ตลอดเลยเหลาม่าจะคอยให้เงินเวลาที่กู๋ษิต แม่ อี๊เพน อี๊ฐาไปโรงเรียน และเวลาที่พวกอี๊ไปเรียนในเมืองเพชรเหลาม่าก็จะตามไปอยู่ด้วย ไปขายก๊วยจั๊บ เหลาม่าสู้ชีวิตมาตลอดเพราะอยากเลี้ยงหลาน ๆ ทุกคนให้อยู่สุขสบาย

เหลาม่ารักกู๋ษิตมากเพราะเป็นหลานชายคนเดียว แต่อี๊เพนก็รู้ว่าเหลาม่ารักหลาน ๆ ทุกคน และรักเหลนทุกคนมากด้วย
ตอนนี้เหลาม่าแก่แล้วทำงานไม่ไหวแล้วและไม่สบายพวกเราทุกคนมีหน้าที่ต้องดูและเหลาม่าเพราะเหลาม่าเลี้ยงพวกเราเหมือนเป็นแม่อีกคน
เวลาที่อี๊เพนกลับบ้านเพชรแล้วดุเหลาม่า อี๊เพนก็เสียใจมาก แต่อี๊ก็นิสัยไม่ดีที่ชอบดุ
อี๊เพนอยากให้เหลาม่าอยู่แบบสบาย ๆ อยากให้กู๋ษิตดูแลเหลาม่าให้ดีที่สุด
แต่อี๊เพนก็ทำได้แค่นี้ เพราะว่าอี๊เพนอยู่ไกล

ตอนนี้อี๊เพนกำลังซื้อบ้านน่าจะรู้ผลภายในเดือนนี้ หากซื้อได้อี๊เพนจะพาเหลาม่ามาอยู่ด้วย

แล้วมิลค์มาเที่ยวหาอี๊เพนด้วยนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น